หัวเว่ยเตือนสหรัฐฯ ว่าจะเกิดผลเสียอย่างไร หากทางสหรัฐฯคว่ำบาตรต่อหัวเว่ย

Huawei

ช่วงนี้ประเด็นข่าวเทคโนโลยีที่กำลังร้อนแรงที่สุดต้องยกให้กับ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งด้านเทคโนโลยี หรือหัวเว่ยของจีน เตือนสหรัฐฯ ว่าจะเกิดผลเสียอย่างไร หากทางสหรัฐฯคว่ำบาตรต่อหัวเว่ย

ผู้บริหารอาวุโสของหัวเว่ย แถลง ณ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กถึงความคาดหวังของเขาว่า จะสามารถแก้ไขความขัดแย้งกับทางสหรัฐฯ และเตือนให้เห็นว่าจะเกิดผลเสียอย่างไรหากหันหลังให้กับเทคโนโลยีของจีน

Mika Lauhde รองประธานฝ่ายความปลอดภัยของหัวเว่ย แถลงกับสำนักข่าวเอพี ถึงความควาดหวังถึง“การแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์” ของความขัดแย้งกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยหัวเว่ยยืนยันว่าไม่ใช่ “ต้นตอของปัญหา” ของสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

โดยทางสหรัฐฯได้กำหนดโทษของผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่ายอันดับหนึ่งและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยให้การโต้แย้งว่าถูกต้องตามกฎหมายต่อรัฐบาลจีน ซึ่งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เพื่อการตอบโต้การจารกรรมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางไซเบอร์ ซึ่งหัวเว่ยได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

โดย Lauhde ไม่คิดว่าสหรัฐฯจะตัดความสัมพันธ์กับหัวเว่ย และ บริษัท เทคโนโลยีอื่นๆของจีน ซึ่งมันเหมือนกับเป็นการ “ทำให้ตนเองจนตรอก” นั่นเอง

และ “หากไม่สามารถติดต่อกับอะไรได้แล้ว ในทางกลับกันนั้น ไปได้ว่าสื่งที่เกิด (หรือกำลังจะเกิด) ขึ้น จะยิ่งส่งผลให้จีนเกิดการตอบโต้

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของกรุงวอชิงตัน เตือนให้ประเทศอื่น ๆ คว่ำบาตรหัวเว่ย ซึ่งเหตุนี้ จะส่งเสริมให้จีนมีการพึ่งพาตนเองทางด้านเทคนิคมากขึ้น และก่อให้เกิดการแบ่งโลกทางเทคโนโลยีออกเป็นสองค่าย

Lauhde ปฏิเสธข้อเสนอแนะของการแบ่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

โดยกล่าวกับทาง AP ว่า “ไม่เชื่อว่าจะมีการสร้างสองค่ายที่แตกต่างกันเกิดขึ้น” และ “เชื่อว่าถึงอย่างไร เราก็ยังคงร่วมงานกัน”

ภายหลังพิธีลงนามข้อตกลงระหว่าง ประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีของจีน Xi Jinping ณ พระราชวังเครมลิน ประเทศรัสเซีย โดยยินยอมให้หัวเว่ยร่วมพัฒนาเครือข่าย 5G ให้รัสเซีย โดยความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีระหว่างหัวเว่ยและผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของรัสเซีย หรือ MTS นั้นก็กำลังมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น

ที่มา: https://www.japantimes.co.jp/news/2019/06/07/business/tech/huawei-warns-u-s-hurt-cutting-off-tech-ties/#.XP4hIYgzbIW

About Author